วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Safe place

บทนำ
  • ในผู้ป่วยที่ได้รับบาดแผลทางจิตใจ(Psychological Trauma) เช่นหลังภาวะภัยพิบัติ หรือความรุนแรงในเด็ก การบำบัดในปัจจุบันจะเน้นการได้ผ่านพ้นจากความทรงจำที่มีต่อบาดแผลทางจิตใจนั้นโดยใช้กระบวนการ exposure ปัญหาที่เราจะต้องเผชิญคือผู้ป่วยมีความพร้อมทางจิตใจที่จะผ่านกระบวนการบำบัดโดยใช้ exposure หรือไม่ และระหว่างการบำบัดถ้าผู้ป่วยทนไม่ได้กับ exposure จะทำอย่างไร
  • ใน EMDR นั้นผมเคยผ่านการอบรม ๒ ครั้ง ในครั้งแรกจะเน้นการใช้ EMDR ลงปฎิบัติอย่างรวดเร็ว ส่วนในครั้งที่ ๒ ที่ผ่านอบรมนั้น วิทยากรจะไม่ยอมให้เราเรียนกระบวนบำบัด ๘ ขั้นตอนของ EMDR เลยจะเน้นการ stabilize ทางจิตใจกับผู้ป่วยก่อน และให้เราไปฝึกกระบวนการ stabilize เป็นเวลา ๑ ปีก่อนจึงจะมาเรียนต่อ
  • ซึ่งเมื่อได้ถามกับผู้ร่วมการอบรมจากอินโดนีเซีย ซึ่งบอกว่าความผิดพลาดของอินโดนีเซียในปีแรกคือการรีบใช้ EMDR โดยไม่ใช้กระบวนการ stabilize ก่อน กว่าจะกลับตัวได้ต้องใช้เวลาถึง ๑ ปี ดังนั้นกระบวนการ stabilizeจึงมีความสำคัญมาก
  • การ stabilize ทางจิตใจที่สำคัญมากอันหนึ่งคือ การสร้างที่ปลอดภัยในจิตใจ ( safe place ) เป็นการสร้างสถานที่ในจินตนาการของผู้ป่วยเอง ที่ไม่มีใครรู้จักและไม่มีใครสามารถไปถึงได้ยกเว้นผู้ป่วยเองเป็นสถานที่ที่ผู้ป่วยสามารถเข้าไปเพื่อที่พัก และผ่อนคลาย
  • เรามักจะใช้ safe place เมื่อจบแต่ละ session หรือระหว่างที่ทำ EMDR แล้วผู้ป่วยรู้สึกทนไม่ได้ หรือในระหว่าง sessions ที่อยู่บ้่านแล้วเกิดความเครียดจากประเด็นอะไรก็ตาม เช่น re-experience
  • ดังนั้นเราจะฝึกให้ผู้ป่วยรู้จัก safe place และสามารถพัฒนาทักษะนี้จนสามารถกลับไปอยู่ใน safe place ได้อย่างง่ายดายแม้ในขณะที่มีความเครียดสูง ซึ่ง client จำเป็นต้องไปฝึกเองด้วย

ขั้นตอน (ดัดแปลงมาจากเอกสารการอบรม EMDR)
  • ขอให้หลับตาและจินตนาการถึงสถานที่ที่เรารู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น สภานที่ที่เราจินตนาการนี้อาจเป็นที่รวมของสถานที่หลายๆแห่งที่เรารู้สึกชอบ สถานที่นี้อาจเป็นสถานที่จริงหรืออาจเป็นสถานที่ในจินตนาการ สถานที่นี้อาจอยู่ใกล้หรืออาจอยู่ไกล อาจอยู่ในโลกนี้ หรือที่อื่นก็ได้
  • ขอให้ใช้เวลาเพื่อหาสถ่านที่นั้น อาจจะต้องใช้การจินตนาการ สถานที่ใดที่ผลุดขึ้นในความคิดหรือจินตนาการ ถ้าเป็นที่ที่รู้สึกปลอดภัย อบอุ่น สบาย ก็ถือว่าใช้ได้
  • ผมจะให้คุณใช้เวลาอยู่กับจินตนาการสักครู่ เมื่อใดที่คุณพบสถานที่ที่คุณคิดว่าใช่แล้วให้บอกผมให้ทราบ
  • ขอให้ตรวจสอบอีกครั้งว่าสถานที่นี้เป็นที่ที่ปลอดภัยและอบอุ่น ขอให้ตรวจสอบทุกการรับรู้ (ภาพ เสียง สัมผัส กลิ่น ความรู้สึก)
  • สิ่งที่เห็นทางภาพนั้นพอใจหรือไม่ ถ้ามีอะไรไม่ชอบขอให้เปลี่ยนได้ ขอให้จำไว้เสมอว่า ในจินตนาการเราสามารถเปลี่ยนทุกสิ่งตามที่เราต้องการได้ เหมือนเรามีเวทมนต์
  • สิ่งที่เราได้ยินในจินตนาการเราพอใจหรือไม่ ถ้าพอใจก็ขอให้เสียงนั้นคงอยู่ ถ้าไม่พอใจขอให้เปลี่ยนหรือลบเสียงนั้นไป
  • อุณหภูมิของสถานที่นั้นเป็นอย่างไร
  • กลิ่นในสถานที่นั้นเป็นอย่างไร ต้องการเพิ่มหรือลด
  • พื้นที่พอเพียงที่เราสามารถเคลื่อนไหวอย่างอิสระหรือไม่ ถ้ากว้างหรือแคบไปให้ปรับได้
  • ต้องการขอบเขตรอบพื้นที่ของเราหรือไม่ ต้องการรั้วที่ไม่ให้ใครเข้ามาในพื้นที่ของเราเพื่อให้รู้สึกปลอดภัยหรือไม่ ถ้าต้องการให้จินตนาการจนเรารู้สึกพอใจไม่ว่าจะเป็นจริง หรือเป็นพื้นที่ซึ่งเป็นรั้วตามธรรมชาติ หรือ พื้นที่ที่ไม่มีใครรู้จัก
  • ถ้าพบว่าีมีใครอยู่ในพื้นที่ที่เราจินตนาการนี้ขอให้กันเขาออกไป ในพื้นที่นี้เป็นของเราเพียงคนเดียว
  • เมื่อเราได้จินตนาการถึงสถานที่นี้แล้ว อยากทำให้ปลอดภัยมากขึ้นหรือไม่ ถ้าต้องการขอให้ทำเพิ่มเติม
  • รู้สึกอย่างไรกับสถานที่ปลอดภัยที่เราสร้างขึ้น ความรู้สึกทางร่างกาย ทางจิตใจ ภาพของสถานที่ เสียงใมที่นั้น กลิ่น ความรู้สึกสัมผัสทางร่างกาย การเกร็งหรือผ่อนคลายของกล้ามเนื้อ การหายใจ
  • ถ้าทกุอย่างไปด้วยดี ขอให้ตัดสินใจเลือกการเคลื่อนไหว เช่น การหายใจเข้าลึกๆ การขยับมือ หรือ คำพูดบางคำ เช่น ผ่อนคลาย สบาย เืพื่อเชื่อมโยงความรู้สึกนี้เข้ากับตัวกระตุ้นที่เราสร้างขึ้น เช่น เมื่อเราหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่าผ่อนคลายสบาย เราสามารถกลับมายังสถานที่นี้ได้อีก
  • อาจมีบางอย่างที่เราต้องการเปลี่ยในสถานที่นี้เพื่อให้เรารู้สึกสบายหรือปลอดภัยมากขึ้น ของให้ตรวจสอบและทำการเปลี่ยน ซึ่งในอนาคตเราสามารถเปลี่ยได้เสมอตามที่เเราต้องการ
  • ขอให้ใช้เวลาอยู่กับสถานที่นี้อย่างปลอดภัยและสบายสักครู่หนึ่ง
  • ขณะนี้จะขอกลับมาอยู่ในปัจจุบัน โดยผมจะค่อยๆนับ ๑ ถึง ๓ เมื่อถึง ๓ แล้สขอฝห้ค่อยๆเปิดตาขึ้น และรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย แจ่มใส
  • ๑ เริ่มรู้สึกถึงสิ่งรอบข้้า่งมาก
  • ๒ ได้ยินเสียงรอบข้าง รู้สึกถึงสิ่งสัมผัสรอบตัว
  • ๓ ขอให้ลืมตาขึ้น รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย


หมายเหตุ
  • บางคนอาจจะเริ่มต้นหา safe place โดยไม่ปิดตาก็เป็นไปได้
  • safe place อาจมาเปลี่ยนระหว่าง session ก็ได้ ถ้ากระบวนการดำเนินไปแล้ว client ไบว่าไม่ใช่
  • ระหว่างใน session จะมีการโต้ตอบระหว่างเรา และ client ตลอด ถ้ามีปัญหาอาจกลับมาปัจจุบันเพื่อคุยถึงประเด็นปัญหา และเริ่ม session ใหม่ได้
  • safe place ไม่ควรมีบุคคลอยู่ในนั้น ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นคนที่รักหรือไม่รัก

    ในประสบการพบปัญหาใน session มีการจินตนาการถึงพ่อซึ่ง client รู้สึกอบอุ่น แต่พอบรรยายไปสักครู่ คิดถึงพ่อ ซึ่งท่านเสียไปแล้วประกฎว่าร้องไห้ออกมา ทำให้ต้องหยุด session และสถานที่นั้นไม่สามารถใช้เป็น safe place ได้่อีก ดังนั้นบุคคลจะมีปัญหาที่เรามี ambivalence ซึ่งจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น